การเล่นสำหรับเด็ก ไม่ใช่แค่เรื่องเล่นๆ เล่นยังไงให้เหมาะกับวัย?
สำหรับเด็กแล้ว การเล่น ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ความสนุกสนาน แต่ยังเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในการเจริญเติบโตของเด็ก ซึ่งการเล่นที่เหมาะสมกับวัยแต่ละช่วงอายุของเด็ก จะช่วยในการพัฒนาทักษะของเด็กในหลายๆ ด้าน และนี่คือรายละเอียดที่พ่อแม่ควรรู้เกี่ยวกับ การเล่นสำหรับเด็ก
เรื่องเล่น..ใครว่าเป็นเรื่องเล่นๆ
การเล่นเป็นกิจกรรมที่คู่กับเด็กทุกคน เพราะลักษณะนิสัยของเด็กส่วนใหญ่จะสนใจสิ่งรอบข้าง อยากรู้อยากเห็น และอยากเรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบข้างตลอดเวลา การเล่นจึงช่วยพัฒนาทักษะของเด็กในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมจินตนาการ ความคิด การเคลื่อนไหวร่างกาย ความคล่องแคล่ว และสติปัญญาในการแก้ปัญหา หรือแม้กระทั่งการฝึกเรื่องทักษะทางด้านอารมณ์ เช่น การเล่นบางชนิดสามารถฝึกเรื่องความอดทนได้อีกด้วย และเพื่อให้การเล่นของเด็ก ช่วยในการพัฒนาเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พ่อแม่ก็ควรเลือกวิธีการเล่นหรือของเล่น ให้เหมาะสมกับอายุของลูกด้วย เพราะจะสามารถช่วยพัฒนาการเจริญเติบโตทั้งทางด้านร่างกายและทักษะอื่นๆ ไปพร้อมกัน
การเล่นที่เหมาะสมกับเด็กแต่ละช่วงอายุ
อายุ 1-3 เดือน
เด็กวัยนี้เริ่มเคลื่อนไหวร่างกายได้ เช่น การเคลื่อนไหวของแขนและขา สองข้างเริ่มเคลื่อนไหวได้เท่ากัน จ้องมอง และเคลื่อนสายตาตามวัตถุนั้นๆ เริ่มคว้าสิ่งของต่างๆ ซึ่งอาจจะคว้าได้บ้างไม่ได้บ้าง เพราะการประสานงานระหว่างกล้ามเนื้อตาและมือยังไม่สมบูรณ์ดี ดังนั้น เด็กในช่วงอายุ 1- 3 เดือน จึงเหมาะกับของเล่นจำพวกโมบายหมุนได้สีสันสดใส เพื่อพัฒนาสายตาและการมองเห็น นอกจากนี้พ่อแม่ควรอุ้ม สัมผัสและพูดคุย เพราะเป็นการพัฒนาการตอบสนองไปในตัว เนื่องจากเด็กวัยนี้จะเริ่มตอบสนองต่อสิ่งที่เห็นและได้ยิน
อายุ 4-5 เดือน
เด็กวัยนี้เริ่มจำวัตถุและบุคคลใกล้ชิดได้ คอแข็ง พลิกตัวหมุนตัวได้ เริ่มหยิบจับสิ่งของแกว่งฟาดไปมา ชอบเอาสิ่งของต่างๆ เข้าปาก จับให้นั่งได้ แต่ยังนั่งเองไม่ได้ ดังนั้น เด็กอายุ 4-5 เดือนจึงเหมาะกับของเล่นที่ใช้มือจับ เขย่ามีเสียง และสามารถเข้าปากได้อย่างปลอดภัย เพื่อป้องกันเด็กนำสิ่งของอันตรายเข้าปาก
อายุ 5-6 เดือน
เด็กในช่วงวัยนี้จะเริ่มเคลื่อนไหวได้คล่องขึ้น อยากรู้อยากเห็น หยิบจับทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เริ่มนั่งเองได้ และร้องเมื่อเห็นคนแปลกหน้า การเล่นที่เหมาะกับเด็กวัยนี้คือ ของเล่นที่สามารถกัดได้ เช่น ยางกัดนิ่มๆ ของเล่นที่มีเสียง หรือการเล่นกับเงาตัวเองในกระจก
อายุ 6-7 เดือน
เด็กช่วงนี้จะมีพัฒนาการเกี่ยวกับการนั่งได้ดีขึ้นกว่าเดิม สามารถนั่งได้ตามลำพัง ไม่ต้องมีพ่อแม่ช่วยพยุง และสามารถนั่งเก้าอี้ได้ เริ่มมีพัฒนาการเรื่องการมองสิ่งต่างๆ และพิจารณาสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามากขึ้น เด็กวัยนี้เหมาะกับของเล่นประเภทตุ๊กตา เช่น ตุ๊กตาล้มลุก หรือของเล่นมีเสียง เช่น กล่องดนตรี
อายุ 7-8 เดือน
เด็กวัยนี้เริ่มมีพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวมากขึ้น เริ่มคลานได้ พ่อแม่ควรดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันการเกิดอันตรายจากการเล่นซน เด็กเริ่มสนใจสิ่งของภายในบ้าน ชอบเล่นของเล่นชิ้นใหญ่ เช่น ไม้ขนไก่ ที่ตักผงขยะ โทรศัพท์
อายุ 8-9 เดือน
เด็กเริ่มมีพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวมากกว่าเดิม คลานได้เร็วขึ้น เริ่มมีการปีนป่าย เด็กวัยนี้เหมาะกับการเล่น จ๊ะเอ๋มากที่สุดเพราะเป็นการเสริมพัฒนาการเรื่องการจดจำข้อมูลเนื่องจากเด็กวัยนี้เริ่มมีพัฒนาการเรื่องภาษา
อายุ 9-10 เดือน
เริ่มมีพัฒนาการเรื่องการทรงตัว เด็กเริ่มเกาะยืนเองได้ อยู่ไม่นิ่ง สามารถเลียนแบบท่าทางและพฤติกรรมบางอย่างจากผู้ใหญ่ได้ เริ่มเข้าใจคำสั่งต่างๆ เช่น การสั่งห้าม เด็กวัยนี้เริ่มสนใจสิ่งแวดล้อมต่างๆ ภายในบ้าน นอกจากนี้เด็กช่วงอายุ 9-10 เดือนยังชอบสิ่งของที่สามารถทำให้เกิดเสียงได้ ดังนั้น ของเล่นที่เหมาะคือ ของเล่นจำพวกที่มีเสียงเพลง หรือ การเล่นเคาะช้อน ถ้วยชามที่สามารถทำให้เกิดเสียงได้ แต่พ่อแม่ควรดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะเด็กวัยนี้เป็นช่วงวัยที่ขยับตลอดเวลา และสนใจสิ่งต่างๆรอบตัว ดังนั้น จึงควรดูแลเด็กให้พ้นจากปลั๊กไฟ หรือเต้าเสียบที่อาจเกิดอันตรายจาการเล่นซนได้
อายุ 10 -11 เดือน
เป็นช่วงตั้งไข่ เด็กเริ่มยืนและเดินเองได้บ้าง อยากรู้อยากเห็นอยากลองทำสิ่งต่างๆ เริ่มใช้ทักษะการจับและการบิดได้ดีขึ้น เด็กวัยนี้เริ่มเปิดประตู และดึงลิ้นชักได้ ซึ่งการเล่นที่เหมาะกับเด็กวัยนี้คือ ของเล่นจำพวกไม้ต่อบล็อกต่างๆ เพื่อเสริมพัฒนาการด้านการใช้ทักษะในการจับและการสังเกต
อายุ 11-12 เดือน
เป็นวัยที่เด็กสามารถเดินได้คล่องมากขึ้นโดยไม่ต้องเกาะสิ่งต่างๆ เพื่อช่วยทรงตัว สามารถพูดและสื่อสารได้มากขึ้นกว่าเดิม แต่ยังคงพูดได้เป็นคำๆ อยากรู้อยากเห็นมากขึ้นชอบเที่ยวนอกบ้าน ดังนั้น เด็กวัยนี้เหมาะกับการเล่นนอกบ้านเพื่อสำรวจสิ่งต่างๆ มากขึ้น เช่น ชิงช้า เล่นที่สนามหญ้า
อายุ 1-2 ปี
เด็กวัยนี้สามารถทำอะไรหลายอย่างได้มากขึ้น เช่น ถือชามข้าว ตักข้าวใส่ปากกินเองได้ สามารถสื่อสารได้มากขึ้น คือสามารถพูดได้มากกว่าหนึ่งคำ และจำชื่อบุคคลใกล้ชิดได้ การเล่น หรือของเล่นที่เหมาะกับเด็กวัยนี้คือ สมุดภาพต่างๆ หนังสือมีเสียง หรือการฟังนิทาน
อายุ 2-3 ปี
เด็กวัยนี้เริ่มโตขึ้น และทำกิจกรรมต่างๆ ได้มากกว่าเดิม เช่น เริ่มกินข้าวได้เอง แต่งตัวได้บ้าง วิ่งเร็วและคล่องแคล่วขึ้น ซึ่งเด็กช่วงอายุประมาณนี้สมควรออกไปเล่นกิจกรรมต่างๆ นอกบ้านมากที่สุด เพราะอยู่ในวัยที่เริ่มมีจินตนาการมากขึ้น เหมาะที่จะเริ่มสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนวัยเดียวกัน เพื่อฝึกทักษะทางด้านการเข้าสังคม Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
อ้างอิงเนื้อหา และรูปภาพจาก
https://www.sanook.com/women/140481/